นอกจากพวกคริสเตียนแล้ว อิทธิพลวัฒนธรรมอิสลามก็มีส่วนดำเนินการบุกเบิกงานทางแพทย์ของกรีกเหมือนกัน การแปลงานสมัยแรกของกรีกมาสู่ภาษาของต้นเองพวกอาหรับจะกลั่นกรองตำรับทฤษฎีต่างๆ บนพื้นฐานการทดลองกับคน นอกจากนี้พวกอาหรับยังเพิ่มเติมพืชสมุนไพรบางชนิดลงไปด้วยเช่น ต้นการบูน หญ้าฝรั่ง(saffron) ผักโขม (spinach) ลงไปในตำรับ ในยุคนี้มีนายแพทย์ผู้ถือกำเนิดในเปอร์เซีย ตอนต้นศตวรรษที่ 9ได้เขียนตำรับรวบรวมคำอธิบายไข้ทรพิษ(ฝีดาษ)และหัด(measle)ขึ้นเป็นครั้งแรก ราวหนึ่งร้อยปีต่อมาได้มาถึงยุคทองของประวัติศาสตร์อิสลาม นายแพทย์ผู้หนึ่งชื่อว่า "อวิเซนนา"ถือได้ว่าเป็นเจ้าชายของบรรดาแพทย์ทั้งหลายเขาได้เขียนตำราที่ชื่อว่า "His cannon of Medicine" ได้กล่าวถึงคำสอนของ กาเลนและอริสโตเติล ตำราเล่มนี้ได้ถูกใช้ทั่วไปยุโรปใน ค.ศ.ที่17 ปัจจุบันในแถบตะวันออกยังคงใช้อยู่ " อวิเซนนา "จะอธิบายโรคหลายชนิด เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ, บาดทะยัก พวกอิสลามได้สร้างโรงพยาบาลสำหรับประชาชนทั่วไป, สร้างรากฐานการศึกษาทางแพทย์ ริเริ่มให้มีการตรวจวินิฉัยและการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์ มีนักปราชญ์, นายแพทย์เชื้อสายยิวผู้หนึ่งชื่อว่า " Maimonides "หรือเรียกว่า " Moses ben Maimon " ประกอบอาชีพอยู่ในกรุงไคโร ในศตวรรษที่ 12 เป็นผู้บุกเบิกการแพทย์อิสลามด้วยในยุคนี้ แม้ว่าพวกอาหรับจะนำหลักปรัชญาผสมกับหลักเคมี ที่เราเรียกกันในนามว่า การเล่นแร่แปรธาตุนั้น มันเป็นจุดเริ่มแพร่หลายไปส่วนต่างๆ ของโลก เช่น เมืองอเล็กแซนเดรียโบราณ และประเทศจีน เรื่องราวบางสิ่งยังคงเป็นปริศนา เช่น ความลับของผ้าห่อศพ การเล่นแร่แปรธาตุนิยมอย่างกว้างขวางในศตวรรษที่ 13 วิชาAlchemy, เคมีปรัชญา เป็นวิธีการที่จะนำเครื่องมือในห้องทดลอง ไขปริศนาเข้าไปในธรรมชาติ, จักรวาล
นักเล่นแร่แปรธาตุมักจะใช้แร่ธาตุหลายชนิด เป็นโลหะต่างๆ ในการทดลอง จึงทำให้ผู้คนพลอยคิดไปว่า พวกเขาจะเปลี่ยนโลหะให้เป็นทอง บรรดานายแพทย์ชาวอาหรับหลายท่านเช่น ราธซีส และ อวิเซนนา เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุด้วย การทดลองตัวยา มักใช้พวกแร่ธาตุเป็นหลักพยายามที่จะพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น แร่ธาตุในจำนวนนี้ได้แก่ ปรอท ซึ่งใช้รักษาโรคผิวหนัง การใช้ปรอทได้นิยมมายาวนาน รวมทั้งโรคซิฟิริส ยุคทองของนายแพทย์อาหรับมาสิ้นสุดลงจากการเผยแพร่อิทธิพลของพวกมองโกล ในศตวรรษที่ 13วิทยาลัยการแพทย์ "ซาลีโน" ได้ถูกล่มสลาย ขณะที่ทางฝรั่งเศลได้ก่อเกิดขึ้นสองแห่ง กล่าวได้ว่าเป็นรุ่งอรุณแห่งยุคเรเนอร์ซองเจิดจ้าบนฟากฟ้ายุโรปการแพทย์เจริญอย่างมีอิสระห่างจากอิทธิพลของศาสนาจักร วิทยาลัยแพทย์ทีมีชื่อที่สุดเห็นจะได้แก่ มหาวิทยาลัยแห่งโบล็อกนา
No comments:
Post a Comment