ในสังคมยุคโบราณ มนุษย์จะมองการเจ็บป่วยเป็นการลงโทษจากพระเจ้า การรักษาจะใช้พิธีการสวดมนต์ ประกอบพิธีกรรมเป็นหลัก โดยถือว่าเป็นยาวิเศษ ยาส่วนใหญ่ได้จากต้นไม้ พืชแถบท้องถิ่นบริเวณนั้นๆ แม้นว่าจะคัดเลือกเอาจาก สี, รูปลักษณ์, กลิ่นและการหายากหรือหาที่มาของต้นตอไม่ได้โดยลำพังก็ตามแต่ก็อาจพูดได้โดยรวมว่า การใช้ยาจากสมุนไพรชนิดหนึ่งหรือหลายชนิดในการรักษาเป็นผลมาจากการลองผิดลองถูกแต่อย่างไรที่จะอธิบายว่า ผู้คนที่อยู่คนละฟากมหาสมุทรฝั่งทวีปมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันกับมีแนวทางรักษาที่ใช้ตัวยาชนิดเดียวกัน, ที่คล้ายๆ กันหรือมีความสัมพันธ์กันมีลักษณะเฉพาะที่เห็นได้เด่นชัด นักโบราณคดีขุดค้นบริเวณหุบเขาแถบอีรัก พบซากมนุษย์นีแอนเดลธาล (Neanderthal)เมื่อหกพันปี ขุดพบพร้อมซากพืชที่ยังคงใช้ในการรักษาแบบพื้นบ้านของผู้คนในท้องถิ่นนั้น ตัวอย่างเช่น ต้น marshmallow, yarrow , groundsel ชาวไวท์อินเดียนเม็กซิกันได้ใช้ต้น เพอโยตแค๊กตัส มาหลายพันปีแล้วปัจจุบันเรารู้ว้าต้นเพอโยต(peyote) มีคุณสมบัติออกฤทธิ์หลอนประสาทและยังค้นพบสารออกฤทธิ์ทางยารักษาบาดแผลเป็นยาปฏิชีวนะ พวกชาวซูมาเรียนที่อยู่แถบแม่น้ำไทกริส ยูเฟตริสประมาณ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล จากตัวหนังสือดินเหนียวพบว่าพวกเขาใช้ ฝิ่น
ชะเอม ต้นไทม,มัสตาทและสารเคมีพวกกำมะถัน ต่อมาพวกบาบิโลนใช้พวก galbamum,storax ที่เป็นไวน์ทำยาพอก,ยาถูนวด
No comments:
Post a Comment